Liver and its crucial function

ตับ: Liver

      ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุด และหนักที่สุดในร่างกาย อยู่ในส่วนบนของช่องท้อง ติดกับกระบังลม และกระดูกซี่โครง ส่วนใหญ่อยู่ทางขวา ส่วนน้อยอยู่ตรงกลาง ยื่นไปทางซ้ายเล็กน้อย มีสีน้ำตาลแกมแดง นุ่ม และฉีกขาดง่าย มีความยาว 12.5 ซม. ตับของทารกที่ยังอยู่ในครรภ์มารดามีน้ำหนัก 1/8 ของน้ำหนักตัว และ เมื่อโตขึ้น จะมีน้ำหนักเป็น 1/36 ของน้ำหนักตัวผู้ใหญ่

เลือดจากกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่จะนำสารอาหารมาสู่ตับ ทางหลอดเลือดดำปอร์ตัล และมีหลอดเลือดแดงซึ่งนำเลือดที่มีออกซิเจนมาสู่ตับด้วย หลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงจะแตกแขนงภายในตับเป็นเส้นเลือดฝอย และหลอดเลือดฝอยเล็กๆเหล่านี้จะรวมไปเป็นหลอดเลือดดำ วิ่งออกจากตับไปสู่หัวใจ

หลอดเลือดดำนำอาหารที่ย่อยแล้วสู่ตับ และตับนี้เองที่ทำลายสารพิษบางอย่างที่มากับอาหาร เปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสเป็นไกลโคเจน และเปลี่ยนไกลโคเจนเป็นกลูโคสเพื่อส่งเข้าสู่กระแสเลือด

หน้าที่ของตับ:

1. สร้างและควบคุม

  • สร้างน้ำดี (Bile) เพื่อย่อยอาหาร และหลั่งน้ำดีออกไปทางท่อตับ (Hepatic Duct)

       ตับมีหน้าที่สร้าง และหลั่งน้ำดีผ่านทางท่อตับตลอดเวลา แต่ตามปกติ น้ำดีจะเข้าไปสู่ดูโอดีนัม (Duodenum) หรือลำไส้เล็กส่วนต้น (Small intestine) เมื่อมีการย่อยอาหารเท่านั้น (น้ำดีจึงถูกนำไปเก็บที่ถุงน้ำดี ซึ่งในระหว่างการเก็บน้ำ น้ำดีจะถูกดูดน้ำออกไปบางส่วน และมีการหลั่งน้ำเมือกออกมาผสมกับน้ำดี ทำให้น้ำดีข้นขึ้น) ตับผลิตน้ำดีขึ้นมาเพื่อย่อยอาหารประเภทไขมัน ทำให้ดูดซึมง่ายขึ้น และพอมีของเสีย หรือของมีพิษที่ตับได้กรองเก็บไว้ ของเสียเหล่านั้นจะถูกส่งผ่านท่อน้ำดี ไปทิ้งรวมกับกากอาหารในลำไส้

  • สร้างวิตามิน A จาก Carotine (สารสีส้มที่มีในแครอท และมะละกอ)
ประโยชน์ของวิตามินเอ

     ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ

  • สร้างองค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือด

   เช่นโปรตีนต่าง ๆ เหล่านี้

    1. ไฟบริโนเจน (Fibrinogen)
    2. โปรธรอมบิน (Prothrombin)
    3. อัลบูมิน (Albumin)

2. เก็บสำรองอาหาร (Glucose, Vitamin A, D, B12 และแร่ธาตุ)

  • เก็บกลูโคส (Glucose) ไปสะสมไว้ในเซลล์ตับ ในรูปแบบไกลโคเจน (Glycogen) และเปลี่ยนไกลโคเจนกลับมาเป็นกลูโคสให้ร่างกายใช้ทันที เมื่อต้องการ เช่นให้พลังงานเพื่อสร้างเซลล์ และเนื้อเยื่อในร่างกายของเรา
  • เก็บวิตามิน A, วิตามิน D, วิตามิน B12 และธาตุเหล็ก (Iron) และทองแดง (Copper)

3. กินเชื้อโรค ทำลายเชื้อโรค และสารพิษ

     ในตับจะมีเซลล์เฉพาะ เรียกเป็นภาษาไทยเก๋ๆว่า เซลล์ทำลายจุลชีพ หรือ เซลล์แมกโครฟาจ (Macrophage) เซลล์นี้สามารถพบได้มากมายหลายที่ในร่างกายของเรา โดยมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แล้วแต่อวัยวะที่เซลล์นี้อยู่ ถ้าอยู่ที่ตับ จะมีชื่อเฉพาะว่า คุฟเฟอร์เซลล์ (Kupffer’s cell)

นอกจากจะจัดการสารพิษต่าง ๆ แล้ว ตับยังขจัดสารพิษ สารเคมีที่เข้ามาในร่างกายเช่น แอลกอฮอลล์ ยา และสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกายประเภทต่าง ๆ

4. เป็นแหล่งพลังงานความร้อนให้กับร่างกาย

    ตับ และกล้ามเนื้อเปรียบเสมือนเตาเผาความร้อนให้กับร่างกาย ตับจะผลิตความอุ่น และความอุ่นจะถูกส่งให้กับโลหิตที่ไหลผ่านตับ เมื่อเลือดไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ร่างกายก็สามารถรักษาอุณหภูมิให้อบอุ่นอยู่เสมอได้ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า โลหิตที่ตับจะมีอุณหภูมิสูงกว่าบริเวณอื่นๆในร่างกาย

หมายเหตุ:

โรคของตับที่ควรรู้

  1. ภาวะตับวาย Liver Failure คือ ภาวะที่ตับไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ ส่งผลให้สุขภาพไม่แข็งแรง การหมุนเวียนของเลือดผิดปกติ หัวใจเต้นผิดปกติ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ภาวะตับวายที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้อน่างรวดเร็วจะเกิดตอนที่มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร แพ้พิษสุราฉียบพลัน มีการเจาะสารน้ำออกจากช่องท้องเป็นจำนวนมาก หรือได้รับยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ และยาขับปัสสาวะ
  2. โรคตับแข็ง Cirrhosis คือ โรคที่เซลล์ตับตาย และมีการงอกใหม่แบบไม่เป็นระเบียบ เซลล์ที่งอกใหม่มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ และมีผังผืดกระจายทั่วตับ (การมีผังผืดอย่างเดียวไม่ใช่โรคตับแข็ง) สาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น ตับอักเสบจากไวรัส พิษสุรา หัวใจวายเรื้อรัง โรค Haemochromatosis โรค Wilson’s Disease ภาวะขาดอาหาร การได้รับสารเคมี และการติดเชื้อ
  3. โรคฝีในตับ Liver Abscess คือ ภาวะที่เกิดหนอง เป็นฝี อาจจะมีฝีเดียวหรือหลายฝีก็ได้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ทำให้เกิดหนอง เช่นเสต็พโตค็อกไซ สตาฟิโลค็อกไซ และเชื้อ อีโคไล (E. Coli) โรคฝีในตับที่เกิดในประเทศไทย ชนิดที่ไม่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มีสาเหตุสำคัญมากสาเหตุหนึ่งจากเชื้อบิด อะมีบิก โดยมีอาการสำคัฯคือ ตับโต เจ็บบริเวณชายโครงขวาและยอดอก อาการอื่นๆที่อาจพบคือ เป็นไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เป็นต้น
  4. โรคตับอักเสบ Hepatitis
  5. โรคมะเร็งตับ Liver Cancer
  6. โรค Haemochromatosis ภาวะตับสะสมธาตุเหล็กมากเกินไปจนเป็นพิษต่อตับ (ปกติตับจะเก็บสารพิษต่างๆไว้ เพื่อไม่ให้เกิดพิษกับอวัยวะอื่น แต่เมื่อมีมากเกินไป ธาตุเหล็กก็เลยทำลายตัวตับเอง)
  7. โรค Wilson’s Disease ตับสะสมทองแดงมากเกินไปจนเกิดพิษ

ศัพท์ภาษาอังกฤษ

  1. Liver ตับ
  2. Store เก็บ, สะสม
  3. Bile น้ำดี
  4. Duct ท่อ
  5. Digest ย่อยอาหาร
  6. Diet อาหาร
  7. Dietary deficiency การขาดสารอาหาร
  8. Nutrient สารอาหาร
  9. Release ปล่อย
  10. Absorb ดูดซึม
  11. Stoll, Excrement, Feces, Faeces, Ordure กากอาหาร
  12. Large intestine, Colon ลำไส้ใหญ่
  13. Small intestine ลำไส้เล็ก
  14. Abscess หนอง
  15. Transfer เปลี่ยน (กลูโคสเป็นไกลโคเจน ไกลโคเจนเป็นกลูโคส)
  16. Vein หลอดเลือดดำ
  17. Artery หลอดเลือดแดง
  18. Capillary เส้นเลือดฝอย
  19. Venule เส้นเลือดฝอย, หลอดเลือดดำเล็ก
  20. Liver Sinusoid เส้นเลือดที่คล้ายเส้นเลือดฝอย จะพบอยู่ในอวัยวะ เช่น ตับ ม้าม
  21. Mineral แร่ธาตุ
  22. Metabolism กระบวนการเผาผลาญอาหาร

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top